สำหรับประเทศไทย สถานการณ์แตกต่างไป เพราะไทยไม่ใช่แหล่งกำเนิดและแพร่กระจาย ที่ผ่านมาเมื่อทราบว่ามีการติดเชื้อไวรัสนี้ที่จีน ก็ได้กำหนดและใช้มาตราเข้มข้นในการสกัดกั้น และพบผู้ติดเชื้อที่ได้รับเชื้อมาจากต่างประเทศ และตรวจพบด้วยมาตรการตรวจคัดกรองที่มีมาตรฐานระดับโลก รวมทั้งยปัจจุบัน ยังสามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้เป็นอย่างดี และดูแลรักษาผู้ป่วยตามระดับอาการจนหลายรายหายเป็นปกติและกลับบ้านได้แล้ว และยังคงใช้มาตรการที่เข้มงวดในการสกัดกั้นและคัดกรองต่อไป
เมื่อถามว่าทำไมไม่ปิดพื้นที่หรือปิดประเทศ ต้องอธิบายว่า สถานการณ์ในไทยยังควบคุมได้ และติดตามตรวจสอบนักท่องเที่ยวได้อย่างละเอียดเข้มข้น ยังไม่ขึ้นไปสู่จุดระบาด ณ ตอนนี้ยังไม่มีการะบาด ติดเชื้อจากคนภายในประเทศ ดังนั้น ณ ขณะนี้จึงยังไม่ต้องไปถึงมาตรการปิดพื้นที่ ปิดจังหวัด ปิดรับนักท่องเที่ยว เพราะหากทำเร็วไปจะเกิดผลเสียมากกว่าผลดี เนื่องจากประชาชนทั่วไปก็ยังคงต้องดำเนินชีวิตตามปกติ หากจะดำเนินมาตรการใดๆจึงต้องคิดให้รอบคอบ
รัฐบาลให้ความสำคัญสูงสุดกับสุขภาพและชีวิตประชาชน และต้องดูแลให้ดีที่สุด
สำหรับนักศึกษาไทยในอู่ฮั่นและในพื้นที่เสี่ยงต่างๆในจีน สถานเอกอัครราชทูตไทยในจีนดูแล และติดต่อกับนักศึกษาอย่างใกล้ชิดหากมีปัญหาใดก็พร้อมให้ความช่วยเหลือและขณะนี้สามารถรวบรวมรายชื่อนักศึกษาและคนไทยทั้งหมดไว้แล้วและเมื่อการประสานงานกับจีนเรื่องการส่งเครื่องบินไปรับนักศึกษาและคนไทยกลับเรียบร้อยแล้ว จะรีบดำเนินการทันที
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังแนะให้ประชาชนดูแลตนเองควบคู่กันไปด้วย เช่น สวมหน้ากากอนามัย รับประทานเนื้อสัตว์ปรุงสุก ล้างมือบ่อย ๆ หลีกเลี่ยงการใกล้ชิดผู้ป่วย ฯลฯ เพราะเมื่อเกิดวิกฤตทุกคนต้องช่วยกัน ส่วนรัฐบาลและเจ้าหน้าที่ของรัฐทุกคนจะทำงานอย่างเต็มที่ ไม่ทอดทิ้งประชาชน เพื่อก้าวผ่านช่วงเวลานี้ไปด้วยกัน