‘สุชัชวีร์’ ลงพื้นที่เยาวราช ชวนลงชื่อจัดตั้ง ‘องค์กรอิสระเพื่อความปลอดภัยสาธารณะ’

‘สุชัชวีร์’ ลงพื้นที่เยาวราช ชวนลงชื่อจัดตั้ง ‘องค์กรอิสระเพื่อความปลอดภัยสาธารณะ’ คาดครบหมื่นชื่อภายใน ม.ค. นี้ ย้ำให้ตระหนักถึงความปลอดภัย-ฝุ่นพิษ กทม.
วันนี้ (18 ม.ค. 67) ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กทม. พร้อมด้วย นางสาวพลอยทะเล ลักษมีแสงจันทร์ กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ และ นายพินิจ กาญจนชูศักดิ์ สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร เขตสัมพันธวงศ์ ลงพื้นที่ติดตามปัญหาฝุ่นพิษ และเชิญชวนประชาชนร่วมลงชื่อจัดตั้งองค์กรอิสระเพื่อความปลอดภัยสาธารณะ ณ ซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ เยาวราช
ศ.ดร.สุชัชวีร์ กล่าวว่า การลงพื้นที่เยาวราชในครั้งนี้ เนื่องจากห่วงใยประชาชนในปัญหาที่เกิดขึ้น 2 เรื่อง คือ
1.ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน เพราะทุกวันนี้อยู่บนความไม่ปลอดภัย ทั้งคานร่วง สะพานถล่ม ถนนยุบ ล้อรถไฟฟ้าร่วง เป็นปัญหาที่เกิดซ้ำซาก และไม่มีใครคิดแก้ไขหรือป้องกัน
2.ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 ซึ่งพื้นที่เยาวราชถือเป็นใจกลางกรุงเทพมหานคร พบค่าฝุ่นพิษเกินกว่าจุดอันตราย เช่นเดียวกับหลายพื้นที่ในเขตกรุงเทพ
ศ.ดร.สุชัชวีร์ กล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้น เพราะไม่มีองค์กรที่เป็นเจ้าภาพ หรือเป็นตัวแทนภาคประชาชน ต้องขอบคุณประชาชนในพื้นที่เยาวราช และพื้นที่อื่น ที่เห็นด้วยว่าประเทศไทยจำเป็นต้องมีองค์กรอิสระเพื่อความปลอดภัยสาธารณะ เดินทางมาร่วมลงชื่อในครั้งนี้เป็นจำนวนมาก คาดว่าภายในเดือนมกราคมจะครบ 10,000 รายชื่อ และจะเสนอ พรบ.สำหรับประชาชน ของประชาชน เพื่อประชาชน เรื่องความปลอดภัยเข้าสู่สภา คาดภายในสิ้นปีหรือต้นปีหน้าจะได้กฎหมายเพื่อความปลอดภัย
ศ.ดร.สุชัชวีร์ กล่าวต่อไปว่า องค์กรเพื่อความปลอดภัยสาธารณะ จะเป็นตัวแทนภาคประชาชนในการเสนอแนะแผนการรับมือภัยพิบัติในอนาคต จะทำให้ลดน้อยลงไปจนถึงป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นเลย ที่ผ่านมาไทยเกิดเหตุภัยรุนแรง เช่น โรงงานระเบิดหลายต่อหลายครั้ง จนถึงเหตุระเบิดที่สุพรรณบุรี ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ร้ายแรงมาก ที่ผ่านมาเราไม่เคยได้รับคำตอบเลย เพราะไม่มีใครเข้าไปถอดบทเรียนอย่างจริงจัง
อย่างไรก็ดี องค์กรเพื่อความปลอดภัยสาธารณะจะเป็นตัวแทนประชาชนลงพื้นที่ตั้งแต่ชั่วโมงแรกที่เกิดเหตุ และถอดบทเรียนเพื่อหาผู้กระทำผิดมารับผิดชอบ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำ และคุ้มครองดูแลผู้ที่ได้รับผลกระทบ สูญเสียชีวิต และทรัพย์สินให้ได้รับการดูแลอย่างเป็นธรรม
ศ.ดร.สุชัชวีร์ กล่าวต่อว่า พรบ.อากาศสะอาด กำลังเข้าสู่กระบวนการแล้ว เป็นการบอกไปถึงตัวแทนประชาชนที่อยู่ในสภา และรัฐบาลว่า วันนี้ภาคประชาชนและพรรคประชาธิปัตย์จะติดตามเรื่องฝุ่น PM 2.5 อย่างเข้มข้นที่สุด เพราะ PM 2.5 อยู่กับลูกหลานเราทุกวัน เช่นเดียวกับองค์กรเพื่อความปลอดภัยสาธารณะ ถ้าเกิดมีการร้องเรียนว่าจุดไหนมีการปล่อยฝุ่นมาก องค์กรเพื่อความปลอดภัยสาธารณะ สามารถติดตามและเผยแพร่ต่อประชาชนได้ ถือเป็นจุดเปลี่ยนที่จะเกิดขึ้นในประเทศไทย