‘ศุภณัฐ’ เปิดข้อสังเกต-เสนอแนะ ร่างผังเมือง เชิญชวนร่วมเวทีรับฟังความคิดเห็นใหญ่ 6 ม.ค.นี้
วันนี้ (5 ม.ค. 67) นายศุภณัฐ มีนชัยนันท์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) กรุงเทพมหานคร พรรคก้าวไกล พร้อมด้วย สภากรุงเทพมหานคร พรรคก้าวไกล แถลงข่าวกับสื่อมวลชน ณ อาคารรัฐสภา เกี่ยวกับ 10 ข้อสังเกตต่อการร่างผังเมืองรวมกรุงเทพมหานคร ที่จะมีการประชุมใหญ่เพื่อรับฟังความคิดเห็นประชาชน ในวันเสาร์ที่ 6 มกราคมนี้
นายศุภณัฐ กล่าวว่า การจัดทำผังเมืองฉบับใหม่ ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการรับฟังความคิดเห็น และการมีส่วนร่วมของประชาชน โดยพรรคก้าวไกลเห็นถึงความสำคัญของผังเมืองเป็นอย่างมาก จึงมีข้อเสนอต่อกระบวนการรับฟังความคิดเห็น ผังเมือง ในแบบร่างผังเมืองฉบับปรับปรุงครั้งที่ 4 ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การผังเมืองปี 2562 จำนวน 10 ข้อดังนี้
1.การรับฟังความคิดเห็นครั้งถัดไป (6 ม.ค. 67) เป็นการรับฟังความคิดเห็นครั้งสำคัญ หากประชาชนไม่ได้เข้าร่วม หรือแสดงความคิดเห็นทางหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษรหรือทางวาจาไว้ จะไม่สามารถแสดงความคิดเห็นใดๆ หลังจากนี้ได้อีก ปัจจุบันนี้ร่างผังเมืองฉบับนี้ยังไม่ใช่ฉบับสมบูรณ์ที่สามารถประกาศใช้ได้
2.การกำหนดผังสีโดยไม่มีรูปแบบ เป็นเพียงการเปลี่ยนผังเมืองที่เพิ่มความเข้มข้นของการใช้ประโยชน์ของที่ดิน โดยนิยมเปลี่ยนแปลงตามรถไฟฟ้าและการใช้ประโยชน์ที่ดินปัจจุบัน ไม่ใช่เป็นการวางผังเมืองเพื่อชี้นำความเจริญหรือกำหนดอนาคตของเมือง แต่เป็นการวางผังเมืองหลังจากที่เมืองได้มีการเจริญเติบโตไปก่อนแล้วค่อยปรับผังเมืองตามความเจริญเติบโตอย่างไร้ทิศทาง
3.การเปลี่ยนแปลงผังสีเขียว (พื้นที่อนุรักษ์ชนบทและพื้นที่เกษตรกรรม) ในฝั่งตะวันตกจะมีการเปลี่ยนแปลง และปรับการใช้ประโยชน์ของที่ดินอย่างก้าวกระโดดกว่าในหลายพื้นที่ ส่วนฝั่งตะวันออก จะมีการปรับขึ้นเพียงเล็กน้อย โดยส่วนใหญ่ยังคงไว้เป็นพื้นที่เกษตรกรรม
4.การไม่กำหนดยุทธศาสตร์ระดับจังหวัด เนื่องจากร่างผังเมืองฉบับปัจจุบัน เป็นการกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินของกรุงเทพฯ โดยไม่ได้มีการวางแผนร่วมกับกรุงเทพฯ และปริมณฑลอย่างมียุทธศาสตร์ และไม่ได้มีเหตุผลหรือหลักการที่ประกอบอย่างชัดเจน ทำให้ในบางพื้นที่มีความ มีความย้อนแย้งกัน เช่น ช่วงรอยต่อระหว่างกรุงเทพฯ กับสมุทรปราการ
5.ทบทวนมาตรการสร้างแรงจูงใจให้โบนัสเอื้อประโยชน์โครงสร้างอสังหาริมทรัพย์ โดยมาตรการสนับสนุนการใช้ประโยชน์ที่ดิน FAR Bonus (Floor Area Ratio Bonus) หรือสิทธิพิเศษในการใช้ประโยชน์ของที่ดินเพิ่มมากขึ้นกว่าที่ผังเมืองกำหนดให้ ซึ่งในร่างผังเมืองฉบับปัจจุบัน มีการกำหนดมาตรการจูงใจให้เอกชนในการแลกกับ FAR Bonus เพิ่มในรูปแบบต่างๆ ซึ่งเป็นมาตรการที่จำเป็นจะต้องพิจารณาและรับฟังข้อดีข้อเสียอย่างรอบด้าน และต้องคำนึงถึงความเป็นธรรมต่อประชาชนกลุ่มอื่นๆ ที่รักษาพื้นที่สีเขียวหรือพื้นที่สาธารณะอื่นอันเป็นประโยชน์แก่ส่วนรวมเช่นกัน พรรคก้าวไกลมองว่า ควรมีการกำหนดยุทธศาสตร์ FAR Bonus แบบจำเพาะเจาะจงในแต่ละพื้นที่ เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพปัญหาภูมิศาสตร์และเศรษฐศาสตร์ของกรุงเทพฯ รวมถึงควรมีการวางแผนการปฎิบัติการติดตามผลลัพธ์ที่กรุงเทพฯ จะได้รับ
6.ปัญหาความไม่สอดคล้องของผังคมนาคมระดับท้องถิ่นและระดับชาติ เช่น การตัดถนนใหม่เพิ่มขึ้นแต่แผนดังกล่าวไม่ได้สอดคล้องกับแนวทางคมนาคมโดยรวมของภาครัฐ เนื่องจากกรุงเทพฯ ไม่ได้เป็นผู้ควบคุมระบบขนส่งมวลชนอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดและไม่ได้เป็นเจ้าของโดยตรง แต่อยู่ภายใต้กระทรวงคมนาคม ทำให้ผังคมนาคมไม่ได้สอดคล้องกันทั้งหมด รวมถึงผังของกรุงเทพฯ ก็ไม่ได้ส่งเสริมการวางผังของระบบแบบตาราง (Grid Pattern System) คือไม่ได้มีความพยายามที่จะเชื่อมซอยต่างๆ เข้าด้วยกัน เพื่อแก้ไขปัญหารถติดอย่างจริงจัง
7.อภิสิทธิ์ชน ซึ่งในร่างผังเมืองฉบับนี้ยังคงไว้ซึ่งความเหลื่อมล้ำและอำนาจ เนื่องจากที่ดินทหารกำหนดให้เป็นผังสีขาว โดยกำหนดให้พื้นที่ทหารซึ่งมีอยู่ในกรุงเทพมหานครกว่า 12,900 ไร่ บางส่วนเป็นผังสีขาว ซึ่งเป็นสถานะที่อยู่เหนือกฎหมายผังเมือง คือไม่มีเงื่อนไขกำหนดขอบเขตการใช้ประโยชน์ที่ดิน แตกต่างกับที่ดินของประชาชนที่ถูกบีบให้อยู่ภายใต้กฎหมายผังเมือง เช่น การใช้พื้นที่ผังสีขาวในการสร้างอาคารที่พักอาศัยให้แก่เหล่านายพล หรือเป็นบ้านพักของให้แก่ทหารระดับสูง
8.การกำหนดพื้นที่สีแดงที่ไม่มีหลักการ เป็นการกำหนดพื้นที่สีแดงและพื้นที่สำหรับการทำพาณิชย์ที่กระจายตัวอยู่บนพื้นที่ของเหล่านายทุน และบางพื้นที่ที่เป็นผังสีแดงไม่สอดคล้องกับผังการพัฒนาเศรษฐกิจขนาดย่อย
9.ผังที่โล่ง ซึ่งในการจัดทำร่างผังเมืองฉบับปัจจุบันยังคงมีผังที่โล่ง โดยกำหนดให้ผังที่โล่ง และผังสีเขียวของกรุงเทพฯ เป็นพื้นที่เพื่อประโยชน์ต่อสาธารณะ แต่ผังที่โล่งในร่างผังเมืองฉบับปัจจุบันได้มีการนับรวมกับพื้นที่ของเอกชน เช่น สนามกอล์ฟ ซึ่งขัดแย้งต่อเงื่อนไขการเป็นที่ดินเพื่อสาธารณะประโยชน์อย่างเห็นได้ชัดเจน
10.การกระจุกความเจริญ เนื่องจากร่างผังเมืองฉบับปัจจุบันไม่ได้มีการแก้ปัญหาความแออัดในกรุงเทพฯ และไม่มีการกระจายความเจริญที่มีแผนรองรับอย่างเป็นรูปธรรม ทำให้กรุงเทพฯ เจริญเติบโตเฉพาะในกรุงเทพฯ ชั้นใน แต่ขณะเดียวกันก็นำมาซึ่งความแออัดที่เพิ่มมากขึ้น ส่วนกรุงเทพฯฝั่งตะวันตกและตะวันออก ยังไม่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนอย่างเป็นรูปธรรม
ด้าน นายณัฐพงศ์ เปรมพูลสวัสดิ์ สส.พรรคก้าวไกล กล่าวถึงแนวทางที่พรรคก้าวไกลจะดำเนินการหลังจากนี้ โดยจะพยายามเพิ่มการมีส่วนร่วมของประชาชนเข้ากับกระบวนการของผังเมืองฉบับนี้ให้เพิ่มมากขึ้น พร้อมเชิญชวนประชาชนเข้าร่วมเวทีรับฟังความคิดเห็นใหญ่ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 6 มกราคม 2567 ณ อาคารกีฬาเวสน์ ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) ดินแดง เวลา 09.00 น.