‘ธรรมนัส’ พบผู้เลี้ยงหมูรายย่อย เดินหน้าปราบหมูเถื่อน
‘ธรรมนัส’ พบผู้เลี้ยงหมูรายย่อย เดินหน้าปราบหมูเถื่อน จ่อหารือพาณิชย์ เพิ่มภาษีสินค้าเกษตรนำเข้า ยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกรให้ดีขึ้น
วันนี้ (20 ก.ย. 66) ชมรมผู้เลี้ยงสุกรรายย่อยไทย เข้าพบ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และนายไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อแสดงความยินดีกับรัฐมนตรีคนใหม่ และร้องเรียนเรื่องราคาสุกรตกต่ำ จากการแพร่ระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (ASF) ตั้งแต่ปี 2564 รวมถึงการนำเข้าสุกรเถื่อน
ร.อ.ธรรมนัส เปิดเผยว่า ตนเองเป็นลูกชาวนาเกิดที่จังหวัดพะเยา ก่อนไปเติบโตที่จังหวัดนราธิวาส ก่อนไปโรงเรียนต้องล้างคอกหมูที่ล้อมรอบด้วยสังคมมุสลิม จึงทำให้เข้าใจวิถีชีวิตของผู้เลี้ยงสุกรเกษตรกรรายย่อยที่ถูกเอารัดเอาเปรียบเป็นอย่างดี ปัจจุบันมีเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรราว 200,000 ราย ซึ่ง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้สั่งกำชับไปยังอธิบดีกรมปศุสัตว์ รัฐมนตรีว่าการ และรัฐมนตรีช่วย ในฐานะผู้กำกับดูแลกรมปศุสัตว์ให้เอาจริงจัง ตนเองจึงประกาศสงครามกับสินค้าเถื่อน ซึ่งจะได้ลงนามแต่งตั้งคณะกรรมการปราบของเถื่อนภายในสัปดาห์นี้ ซึ่งมอบหมายนายไชยา ขับเคลื่อนเรื่องนี้อย่างจริงจัง เราจะต่อสู้ยกคุณภาพชีวิตของเกษตรกรรายย่อยให้ดีขึ้น
บ้านเราเป็นอู่ข้าวอู่นำ สามารถผลิตพืชผลทางการเกษตร ทั้งภาคประมง ปศุสัตว์ พืชไร่ และพืชสวน เราเป็นศูนย์กลางการผลิตอาหารโลก แต่เราต้องนำเข้าสินค้าทางการเกษตร ให้เขาเข้ามารังแกเกษตรกรไทย โดยเรื่องนี้หารือกับกระทรวงที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงการคลังที่รับผิดชอบกรมศุลกากร กระทรวงพาณิชย์ที่รับผิดชอบกรมการค้าภายใน หากนำเข้าสินค้าการเกษตรเข้ามาจำเป็นต้องปรับภาษีให้สูงขึ้น เช่นเดียวกับพ่อค้ารายใหญ่มีต้นทุน และกำลังทรัพย์มากในการผลิตสินค้าก็ควรที่จะส่งออกนอกประเทศ ให้เกษตรกรรายย่อยได้ลืมตาอ้าปากขายให้คนไทยได้กิน ผลิตในไทยกินในไทย
จากนั้นตัวแทนผู้เลี้ยงสุกรได้สะท้อนปัญหาต่อรัฐมนตรี โดยผู้เลี้ยงสุกรรายหนึ่ง กล่าวว่า ปัจจุบันมีผู้เลี้ยงสุกรรายย่อยกว่า 95% ขาดทุนเป็นจำนวน 2,000 กว่าบาทต่อสุกรหนึ่งตัวเมื่อคิดราคาตามน้ำหนัก เราจะบริหารจัดการอย่างไร เพราะหลายประเทศไม่มีผู้เลี้ยงสุกรรายย่อยเหลืออยู่แล้ว และประเทศเราเป็นอู่ข้าวอู่น้ำ หากทำให้เกษตรกรรายย่อยแข็งแรง ห่วงโซ่ภาคการเกษตรทั้งหมดก็จะแข็งแรง ทำให้ประเทศเรามีความมั่นคงทางด้านอาหาร
