นายกรัฐมนตรี แถลงมาตรการ ลดค่าครองชีพประชาชน ลดราคาพลังงาน น้ำมันดีเซล
พักหนี้เกษตรกรและผู้ประกอบการรายย่อย 3 ปี เปลี่ยนการจ่ายเงินเดือนข้าราชการใหม่ทุก 15 วัน เริ่มปี 67 พร้อมออกมาตรการวีซ่าฟรีนักท่องเที่ยวจีน -คาซัคสถานสถานกระตุ้นการท่องเที่ยว ตั้ง “ภูมิธรรม” ประธานกรรมการศึกษาทำประชามติแก้รัฐธรรมนูญ
วันนี้ (13 ก.ย. 66) ภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แถลงว่าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี มีมติตั้งคณะกรรมการจัดงาน พระราชพิธีเฉลิมพระเกียรติ ครบรอบ 72 พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในปี 2567 เพื่อให้สมพระเกียรติ
เรื่องที่ 2 เพื่อช่วยแก้ไขความเห็นต่างในเรื่องรัฐธรรมนูญปี 2560 มีมติเห็นชอบให้ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นผู้รับผิดชอบคณะกรรมการศึกษาแนวทางการทำประชามติโดยยึดเอาแนวทางของศาลรัฐธรรมนูญเป็นสำคัญ และใช้เวทีรัฐสภาเป็นการหารือแนวทางรูปแบบในการแก้ไขรัฐธรรมนูญและประจำมติเพื่อให้ประชาชนทุกภาคส่วนร่วมออกแบบกฎกติกาที่เป็นประชาธิปไตยร่วมกัน
เรื่องที่ 3 ยกเลิกการขอเข้าประเทศไทย ของประเทศจีนและคาซัคสถาน ซึ่งการที่ให้คาซัคสถานเข้าฟรีวีซ่านั้นเนื่องจาก เพราะเป็นชาติที่อยู่ในเขตยุโรปที่มีสภาพอากาศฤดูหนาวรุนแรง และเป็นประเทศที่มีประชาชนจ่ายเงินเข้าสู่ประเทศไทยมากขึ้นเรื่อยๆ โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 25 กันยายนถึง 29 กุมภาพันธ์ 2567 เป็นต้นไป พร้อมยืนยันว่าเป็นการวีซ่าฟรีชั่วคราว การดำเนินการดังกล่าวได้พูดคุยกับฝ่ายความมั่นคงและการท่าอากาศยานเรียบร้อยแล้วเพื่อให้มั่นใจว่าทุกภาคส่วนพร้อมรองรับ
เรื่องที่ 4 มีการตั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบาย โดยจะเป็นการดึงศักยภาพของชาวไทยทุกคนออกมาเพื่อเสริมสร้างรายได้และโอกาสให้กับประชาชนคนไทย ที่รัฐบาลหาเสียงไป เพื่อเป็นการดึงศักยภาพและโอกาสให้กับประชาชนคนไทย
เรื่องที่ 5 การพักหนี้เกษตรกร และธุรกิจขนาดเล็กเป็นระยะเวลา 3 ปี
นอกนี้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรียังมีมติให้เปลี่ยนการจ่ายเงินเดือนข้าราชการ จากเดือนละ 1 รอบเป็นเดือนละ 2 รอบที่คาดว่าจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 เป็นต้นไปเพราะต้องมีการแก้ไขระบบในอีกหลายอย่าง ซึ่งเชื่อว่าเรื่องนี้จะเป็นการบรรเทาทุกข์ให้กับข้าราชการชั้นผู้น้อยได้พอสมควรเพราะการจ่ายเงินเดือนละสองรอบจะได้ไม่ต้องไปกู้หนี้ยืมสินหรือคอยให้ถึงสิ้นเดือน
ที่ประชุมยังมีมติลดค่าไฟฟ้าเหลือหน่วยละ 4.10 บาท ต่อกิโลวัตต์ต่อ 1 ชั่วโมง จาก 4.45 บาท ซึ่งเชื่อว่าเยอะกว่าที่ประชาชนคาดการณ์ไว้โดยจะเริ่มต้นในรอบบิลเดือนกันยายนเป็นต้นไป
รวมถึงลดราคาค่าน้ำมันดีเซล ให้ต่ำกว่า 30 บาทต่อลิตร คาดว่าจะเริ่มได้ตั้งแต่วันที่ 20 กันยายน ส่วนเบนซิน ได้มีการพูดคุยกันแต่ต้องดูให้ดีถึงผู้ที่เดือดร้อนจริงๆ ซึ่งจะมีการออกมาตรการตามมา
หลังการแถลงข่าว นายเศรษฐา กล่าวกับผู้สื่อข่าวอีกครั้งอย่างอารมณ์ดีพร้อมยกนิ้วโป้งขึ้น ว่า “ที่แถลงมาดีนะครับ เป็นเรื่องการบรรเทาทุกข์ให้พี่น้องประชาชน และจะพยายามเค้นออกมาอีกนะครับ ให้รอนะครับ จะพยายามอย่างเต็มที่ ขอบคุณครับ”