รมว.คมนาคม สรุปผลงานปี 2565 เร่งรัดการดำเนินงานให้เกิดผลเป็นรูปธรรม
วันนี้ (27 ธ.ค. 65) นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม แถลงผลการสัมมนาเชิงปฏิบัติการ “สรุปผลงานปี 2565 และขับเคลื่อนนโยบายไปสู่การปฏิบัติในปี 2566 และ ปี 2567” ที่ กระทรวงคมนาคม
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ กล่าวว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ประกาศเจตนารมณ์ในการบริหารประเทศ “ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง” ด้วยการสร้างศักยภาพและโอกาสให้คนไทยทุกกลุ่มสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างมีคุณภาพ และได้รับสิทธิประโยชน์จากการบริการภาครัฐอย่างเท่าเทียมและเสมอภาค โดยรัฐบาลมั่นใจว่าในปี 2566 จะเป็นโอกาสทองของประเทศไทยตามที่รัฐบาลได้วางยุทธศาสตร์ชาติ และเดินหน้ามาตรการต่าง ๆ ให้มีความพร้อมในทุก ๆ ด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่ง เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวภายในประเทศ
รวมถึงการให้บริการประชาชนอย่างทั่วถึงทั่วประเทศ เพื่อสนับสนุนให้ไทยเป็นศูนย์กลางการลงทุนของภูมิภาคอาเซียน จึงได้มอบนโยบายให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงฯ เร่งรัดการดำเนินงานตามภารกิจโดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นสำคัญ ประชาชนต้องได้รับความสะดวก ปลอดภัย ตรงเวลา ราคาสมเหตุสมผลในการเดินทางทุกรูปแบบ โดยการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ โปร่งใส และตรวจสอบได้ ซึ่งการจัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการ “สรุปผลงานปี 2565 และขับเคลื่อนนโยบายไปสู่การปฏิบัติ
ในปี 2566 และ ปี 2567” ในครั้งนี้ ถือได้ว่าเป็นการติดตามผลการดำเนินการตามนโยบายของกระทรวงฯ และหน่วยงานในสังกัด ในปีงบประมาณ 2565 และทบทวน ถอดบทเรียนการดำเนินงาน ข้อจำกัด ปัญหา อุปสรรค ที่ผ่านมา เพื่อหาแนวทางในการผลักดันให้เกิดผลสัมฤทธิ์โดยเร็ว อันจะนำไปสู่การเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน ปี 2566 และ ปี 2567 ร่วมกัน ซึ่งตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งจนถึงปัจจุบันได้มอบนโยบายสำคัญและได้มีการผลักดันไปสู่การปฏิบัติในทุกมิติทั้งทางบก ทางราง ทางน้ำ และทางอากาศแล้ว จำนวน 105 นโยบาย
สำหรับการสัมมนาเชิงปฏิบัติการในวันแรก (21 ธันวาคม 2565) ได้มอบหมายให้ นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม มอบแนวทางในการสัมมนาเพื่อขับเคลื่อนนโยบายสู่การปฏิบัติให้เป็นรูปธรรม ซึ่งหน้าที่ของกระทรวงคมนาคม คือ การนำนโยบายไปคิดวางแผนสู่การปฏิบัติจริงออกเป็น Action Plan ตามนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม โดยเน้น “ประชาชนเป็นศูนย์กลาง” ดำเนินการตามนโยบายรัฐบาล มติคณะรัฐมนตรี กฎหมาย ระเบียบที่เกี่ยวข้อง และหลักธรรมาภิบาล รวมทั้งดำเนินการตามยุทธศาสตร์ การพัฒนาระบบคมนาคมขนส่ง ระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2561 – 2580) ตามกรอบแนวคิดการพัฒนาระบบคมนาคมขนส่ง คือ 1) การขนส่งที่มีประสิทธิภาพ 2) การขนส่งที่ปลอดภัยและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และ 3) การขนส่งที่เข้าถึงได้อย่างเสมอภาคและเท่าเทียม โดยภาพรวมของการบริหารภารกิจของกระทรวงคมนาคม ประกอบด้วย
- ระบบคมนาคมขนส่ง 4 มิติ ได้แก่ 1) ทางถนน/ทางบก 2) ทางราง 3) ทางน้ำ และ 4) ทางอากาศ
- ภารกิจ/หน้าที่ 4 ด้าน ได้แก่ 1) Infrastructure Developer 2) Regulation/Regulator 3) Promotion & Facilitator และ 4) Service Provider
- เป้าหมายการให้บริการ 4+2 เป้าหมาย ได้แก่ 1) สะดวก (สะอาด) 2) ปลอดภัย 3) (รวดเร็ว) ตรงเวลา 4) ราคา (ประหยัด) สมเหตุสมผล โดยในการดำเนินการไปสู่เป้าหมายนั้นกระทรวงคมนาคมได้คำนึงถึงการพัฒนาการขนส่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และ รูปแบบการเดินทางที่เข้าถึงง่ายสำหรับคนทุกกลุ่ม
ด้านแนวทางการขับเคลื่อนคมนาคมที่ยั่งยืน ปี 2566 : ย้อนดูอดีตปรับแก้สู่อนาคตต้องดำเนินการสานต่อดำเนินงานตามนโยบายที่ยังค้างอยู่ไปสู่การปฏิบัติ ดำเนินการให้แล้วเสร็จตามตัวชี้วัด เรียนรู้จากปัญหาที่เกิดในปี 2564/2565 คิดวางระบบป้องกัน แก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชนในปี 2566/2567
ในส่วนของการจัดสัมมนา Workshop ระหว่างวันที่ 21 – 22 ธันวาคม 2565 มีจุดประสงค์ เพื่อสรุปผลการดำเนินการของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงฯ ตาม 79 นโยบาย ในปีงบประมาณ 2565 และทำการประมวลถึงปัญหาอุปสรรคในการดำเนินการสำหรับนโยบายที่ยังไม่แล้วเสร็จ เพื่อหาแนวทางในการผลักดันการดำเนินงานให้เกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว รวมถึงพิจารณาหาแนวทางการพัฒนาโครงข่ายคมนาคมให้เกิดความยั่งยืน ในปี 2566 และ ปี 2567 โดยเนื้อหาการสัมมนามี 3 ส่วน ได้แก่
- การสรุปผลงานตามนโยบายในปี 2565 จาก 79 นโยบาย 167 โครงการ สามารถสรุปภาพรวมได้ว่าดำเนินการแล้วเสร็จหรือเปิดให้บริการแล้ว รวม 61 โครงการ อยู่ระหว่างดำเนินการ จำนวน 64 โครงการ และอยู่ในช่วงจัดทำแผนงานหรือออกแบบ จำนวน 42 โครงการ โดยแต่ละหมวดจะมีรายละเอียดดังนี้
1.1 นโยบายด้านการขนส่งทางถนน จำนวน 13 นโยบาย 25 โครงการ แบ่งเป็น เปิดให้บริการแล้ว 5 โครงการ อาทิ การกำหนดความเร็วรถยนต์สูงสุดไม่เกิน 120 กิโลเมตร/ชั่วโมง โครงการพัฒนาระบบ M-Flow เป็นต้น โครงการที่ประกวดราคาแล้วและ
อยู่ระหว่างดำเนินงาน จำนวน 14 โครงการ อาทิ โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายบางปะอิน – นครราชสีมา (M6) สายบางใหญ่ – กาญจนบุรี (M81) สายบางขุนเทียน – บ้านแพ้ว (M82) โครงการทางพิเศษในจังหวัดภูเก็ต สายกะทู้ – ป่าตอง เป็นต้น และอยู่ระหว่างจัดทำแผนหรือออกแบบ จำนวน 6 โครงการ อาทิ โครงการจัดทำแผนแม่บท MR-MAP โครงการ Landbridge ชุมพร – ระนอง และมอเตอร์เวย์ ส่วนต่อขยายเชื่อมต่อสนามบินอู่ตะเภา (M7) เป็นต้น
1.2 นโยบายด้านการขนส่งทางบก จำนวน 19 นโยบาย 24 โครงการ เปิดให้บริการแล้ว 15 โครงการ อาทิ โครงการระบบติดตามตรวจสอบพฤติกรรมการขับขี่ โครงการการจัดระเบียบรถจักรยานยนต์เดลิเวอรี่ โครงการการจัดระเบียบรถยนต์รับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ โครงการยกระดับคุณภาพการออกใบอนุญาตขับรถ โครงการผลักดันเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าสำหรับรถขนส่งสาธารณะ (EV)
อยู่ระหว่างดำเนินงาน 4 โครงการ อาทิ โครงการศูนย์การขนส่งชายแดนจังหวัดนครพนม โครงการศูนย์เปลี่ยนถ่ายรูปแบบการขนส่งสินค้าเชียงของ จังหวัดเชียงราย เป็นต้น และอยู่ระหว่างจัดทำแผนหรือออกแบบ จำนวน 5 โครงการ อาทิ การปรับเวลาเดินรถบรรทุก 10 ล้อ ขึ้นไป โครงการจัดหารถประจำทาง EV ของ ขสมก. จำนวน 2,511 คัน
1.3 นโยบายด้านการขนส่งทางราง จำนวน 23 นโยบาย 55 โครงการ เปิดให้บริการแล้ว 18 โครงการ อาทิ โครงการจัดตั้งสถาบันวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีระบบราง (องค์การมหาชน) จัดตั้งบริษัทลูกเพื่อบริหารสินทรัพย์ รฟท. (บริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด) การเร่งรัดเปิดให้บริการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง และสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ การใช้บัตร EMV เพื่อจ่ายค่าโดยสารบนรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินและสีม่วง รถไฟชานเมืองสายสีแดง เป็นต้น
อยู่ระหว่างดำเนินงาน 15 โครงการ อาทิ โครงการพัฒนารถไฟทางคู่ (ระยะแรก) โครงการก่อสร้างรถไฟสายใหม่ โครงการพัฒนารถไฟความเร็วสูง เป็นต้น และอยู่ระหว่างจัดทำแผนหรือออกแบบ 22 โครงการ อาทิ พัฒนาพื้นที่รอบสถานีรถไฟความเร็วสูงและสถานีรถไฟทางคู่ และผลักดันการพัฒนารถไฟ EV (EV on Train) เป็นต้น
1.4 นโยบายด้านการขนส่งทางน้ำ จำนวน 15 นโยบาย 34 โครงการ เปิดให้บริการแล้ว 8 โครงการ อาทิ การเปิดให้บริการเรือ RoRo เส้นทางสัตหีบ – เกาะสมุย การผลักดันเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าสำหรับเรือโดยสารสาธารณะ ปรับปรุงลักษณะทางกายภาพท่าเรือ จำนวน 3 ท่า คือ ท่าบางโพ ท่าราชินี ท่าสาทร การพัฒนาบุคลากรทางน้ำ มากกว่า 3,500 คน เป็นต้น
อยู่ระหว่างดำเนินการ 15 โครงการ อาทิ โครงการก่อสร้างท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 เป็นต้น และอยู่ระหว่างจัดทำแผนหรือออกแบบ 11 โครงการ อาทิ ศึกษาความเป็นไปได้การจัดตั้งสายการเดินเรือแห่งชาติ การศึกษาจัดทำแผนการพัฒนาท่าเรือกรุงเทพ ให้เป็น Automation Port เป็นต้น
1.5 นโยบายด้านการขนส่งทางอากาศ จำนวน 9 นโยบาย 29 โครงการ เปิดให้บริการแล้ว จำนวน 13 โครงการ อาทิ พัฒนาระบบการเดินอากาศระบบใหม่ ณ ศูนย์ควบคุมการบินหัวหิน โครงการเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสาร – เพิ่มประสิทธิภาพของสนามบินสุราษฎร์ธานี เป็นต้น
โครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการ จำนวน 10 โครงการ อาทิ การให้สิทธิบริหารท่าอากาศยานของ ทย. แก่ ทอท. จำนวน 3 ท่าอากาศยาน (กระบี่ อุดรธานี และบุรีรัมย์) เป็นต้น และอยู่ในขั้นตอนการจัดทำแผนงานหรือออกแบบ จำนวน 6 โครงการ อาทิ โครงการศึกษา ออกแบบ และจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมท่าอากาศยานภูมิภาคของ ทย. จำนวน 2 แห่ง (ระนอง และชุมพร) เป็นต้น
- การสานต่อนโยบายปี 2565 ขับเคลื่อนนโยบายในปี 2566 จากนโยบายในปี 2565 ทั้งหมด 79 นโยบาย 167 โครงการนั้น ในส่วนที่ยังไม่แล้วเสร็จจำนวน 106 โครงการ หน่วยงานจะต้องเร่งรัดดำเนินการให้แล้วเสร็จ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมได้มอบนโยบายใหม่ 24 นโยบาย ที่จะต้องดำเนินการในปี 2566 ดังนี้
2.1 นโยบายด้านการขนส่งทางถนน จำนวน 4 นโยบาย 15 โครงการ ประกอบด้วย 1) การพัฒนาระบบ M-Flow ทางพิเศษสายฉลองรัช สายบูรพาวิถี สายกาญจนาภิเษก 2) การแก้ไขปัญหาจราจรบนทางด่วน คือ ศึกษาความเหมาะสมทางพิเศษ สายศรีนครินทร์ – ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ 3) ต่อเติมโครงข่ายทางพิเศษเชื่อมโยงภูมิภาค อาทิ ความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน (PPP) ทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) ช่วงนครปฐม – ปากท่อ PPP มอเตอร์เวย์ ส่วนต่อขยายทางยกระดับอุตราภิมุข โครงการก่อสร้างสะพานข้ามทะเลสาบสงขลา อำเภอกระแสสินธุ์ จังหวัดสงขลา – อำเภอเขาชัยสน จังหวัดพัทลุงและโครงการก่อสร้างสะพานเชื่อมเกาะลันตา ตำบลเกาะกลาง – ตำบลเกาะลันตาน้อย อำเภอเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ และ 4) จัดทำมาตรฐานการควบคุมงานก่อสร้างในพื้นที่เปิด
2.2 นโยบายด้านการขนส่งทางบก จำนวน 5 นโยบาย 5 โครงการ ประกอบด้วย 1) แผนพัฒนาการบริหารจัดการเดินรถด้วยระบบ GPS โดยการปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้งานฐานข้อมูลระบบ GPS 2) แผนเชื่อมต่อการเดินทางเข้าสู่ระบบรถไฟฟ้า คือ การศึกษาแผนพัฒนาโครงข่ายคมนาคมเชื่อมโยงรูปแบบการเดินทางเพื่อเข้าสถานีรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล 3) ต่อยอดการพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการขนส่งสินค้า คือ การพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการขนส่งสินค้า 4) โรงเรียนสอนขับรถขนาดใหญ่ โดยเปิดรับคัดเลือกโรงเรียนสอนขับรถขนาดใหญ่ และ 5) ยกระดับด้านทะเบียนอย่างต่อเนื่อง โดยการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้พัฒนาระบบการจดทะเบียนรถ
2.3 นโยบายด้านการขนส่งทางราง จำนวน 5 นโยบาย 5 โครงการ ประกอบด้วย
1) เร่งพัฒนาระบบตั๋วร่วม คือ ศึกษากำหนดอัตราค่าโดยสารขั้นสูง ค่าแรกเข้า และหลักเกณฑ์การขึ้นอัตราค่าโดยสารขนส่งมวลชนระบบราง
2) พัฒนามาตรฐานรถไฟทางคู่ คือ ศึกษารวบรวมข้อมูลและจัดทำร่างมาตรฐานการซ่อมบำรุงของรถไฟสายประธาน
3) พัฒนารถไฟความเร็วสูง คือ ศึกษาความเหมาะสมการเชื่อมโยงรถไฟไทย สปป.ลาว และจีน
4) พัฒนามาตรฐานรถไฟฟ้าในเมือง คือ การศึกษาจัดทำร่างมาตรฐานระบบไฟฟ้า และอาณัติสัญญาณ และ
5) ผลักดันการพัฒนารถไฟฟ้าในเมืองภูมิภาค คือ โครงการก่อสร้างระบบขนส่งมวลชนจังหวัดภูเก็ต ระยะที่ 1 ช่วงท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต – ห้าแยกฉลอง และส่วนต่อขยายท่าฉัตรไชย
2.4 นโยบายด้านการขนส่งทางน้ำ จำนวน 6 นโยบาย 9 โครงการ ประกอบด้วย
1) แนวป้องกันการกัดเซาะตลิ่งต้องคงทน เช่น การก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งในแม่น้ำป่าสัก ระยะที่ 2 และ 3
2) Master Plan ฟื้นฟูชายหาด ต้องครอบคลุม เช่น การเสริมชายหาดจอมเทียน อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี ระยะที่ 2 สำรวจแหล่งทรายเพื่อเสริมชายหาดชายฝั่งอ่าวไทยตอนกลาง
3) ท่าเรือยอร์ชคลับ ต้องสร้างรายได้ เช่น ศึกษา Marina Hub และท่ามารีนาชุมชน
4) แผนการเชื่อมต่อท่าเรือกับสถานีรถไฟฟ้าต้องสมบูรณ์ เช่น โครงการพัฒนาท่าเรือพระราม 5 พัฒนาท่าเรือพระปิ่นเกล้า พัฒนาท่าเรือปากเกร็ด
5) เพิ่มปริมาณการขนส่งสินค้าทางน้ำ เช่น ศึกษาพัฒนาประสิทธิภาพการขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ และ
6) การพัฒนาท่าเรือบก (Dry Port) เพิ่มประสิทธิภาพพื้นที่หลังท่า คือ การศึกษาทบทวนแผนการพัฒนาท่าเรือบก (Dry Port)
2.5 นโยบายด้านการขนส่งทางอากาศ จำนวน 4 นโยบาย 24 โครงการ ประกอบด้วย
1) พัฒนาท่าอากาศยานเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับ/เพิ่มประสิทธิภาพ เช่น โครงการขยายลานจอดเครื่องบิน ท่าอากาศยานขอนแก่น โครงการก่อสร้างอาคารที่พักผู้โดยสารหลังใหม่ ท่าอากาศยานตรังและนครศรีธรรมราช โครงการก่อสร้างสุวรรณภูมิ ระยะที่ 2 ส่วนต่อขยายด้านตะวันออก และทางวิ่งเส้นที่ 3
2) พัฒนาห้วงอากาศ/ระบบ การเดินอากาศเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับ/เพิ่มประสิทธิภาพ เช่น ก่อสร้างอาคารหอควบคุมการจราจร และสำนักงานแห่งใหม่ (เชียงใหม่)
3) ยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมการบิน เช่น โครงการบริหารและการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data & Analytics)
4) เตรียมการรองรับนักท่องเที่ยวตามนโยบายการเปิดประเทศ เช่น การการแก้ไขปัญหาในการให้บริการผู้โดยสาร ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและดอนเมือง
- การขับเคลื่อนนโยบายปี 2567
3.1 นโยบายด้านการขนส่งทางถนน จำนวน 4 นโยบาย 20 โครงการ อาทิ การแก้ไขปัญหาการจราจรบนทางด่วน การต่อเติมเพื่อแก้ Missing Link เชื่อมโยงภูมิภาค/เชื่อมโยงต่างประเทศ การติดตามปัญหาอุทกภัย แก้ไขอย่างยั่งยืน และการวางระบบติดตามโครงการขนาดใหญ่ เป็นต้น
3.2 นโยบายด้านการขนส่งทางบก จำนวน 8 นโยบาย 13 โครงการ อาทิ การสนับสนุนยานยนต์ไฟฟ้า และส่งเสริมยานพาหนะที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น ส่งเสริมให้มีจำนวนยานยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น การเร่งรัดแผนฟื้นฟู ขสมก. การยกระดับระบบการออกใบอนุญาตขับรถเพื่อรองรับรัฐบาลดิจิทัล การเชื่อมโยงและพัฒนาระบบการขนส่งด้วยรถโดยสารสาธารณะ การพัฒนาศูนย์เปลี่ยนถ่ายและสถานีขนส่งสินค้า การพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการขนส่งสินค้า การดำเนินการเพื่อรองรับเทคโนโลยียานยนต์อัตโนมัติ และยกระดับมาตรฐานใบอนุญาตขับรถขนาดใหญ่
3.3 นโยบายด้านการขนส่งทางราง จำนวน 6 นโยบาย 13 โครงการ อาทิ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางราง เช่น โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 ช่วงปากน้ำโพ – เด่นชัย การพัฒนาพื้นที่รอบสถานี (TOD) เช่น การพัฒนาพื้นที่บริเวณสถานีธนบุรี การแก้ไขปัญหาอุทกภัยอย่างยั่งยืน การป้องกันการลอบวางระเบิดทางรถไฟ เช่น จัดตั้งศูนย์ประสานงานความปลอดภัยประสานเจ้าหน้าที่ความมั่นคง ตรวจสอบเส้นทางที่ชุมทางหาดใหญ่ สถานีเทพา และสถานีตันหยงมัส การป้องกันการขโมยสายไฟ และการผลักดันการพัฒนารถไฟ EV (EV on train) เป็นต้น
3.4 นโยบายด้านการขนส่งทางน้ำ จำนวน 6 นโยบาย 7 โครงการ ประกอบด้วย งานจัดระเบียบการรุกล้ำลำน้ำในแม่น้ำ และชายฝั่ง ท่าเรือเพื่อการท่องเที่ยว การพัฒนาท่าเรือบก (Dry Port) เพิ่มประสิทธิภาพพื้นที่หลังท่า เสริมทรายชายหาด สนับสนุนการท่องเที่ยว การจัดตั้งสายการเดินเรือแห่งชาติ และพัฒนาการเชื่อมต่อท่าเรือกับสถานีรถไฟฟ้า
3.5 นโยบายด้านการขนส่งทางอากาศ จำนวน 1 นโยบาย 3 โครงการ ประกอบด้วย การพัฒนาท่าอากาศยานระนองก่อสร้างอาคารที่พักผู้โดยสารหลังใหม่ ท่าอากาศยานระนอง การพัฒนาท่าอากาศยานชุมพร งานก่อสร้างต่อเติมความยาวทางวิ่งขยายทางขับ ลานจอดเครื่องบิน พร้อมระบบไฟฟ้าสนามบินและองค์ประกอบอื่น ๆ และการพัฒนาท่าอากาศยานตรัง ระยะที่ 2 งานต่อเติมความยาวทางวิ่ง
ทั้งนี้ จาก 79 นโยบายปี 2565 ที่มีทั้งหมด 167 โครงการ เป็นโครงการที่ดำเนินการแล้วเสร็จหรือเปิดให้บริการแล้ว รวม 61 โครงการ อยู่ระหว่างดำเนินการ จำนวน 64 โครงการ อยู่ในช่วงจัดทำแผนงานหรือออกแบบ จำนวน 42 โครงการ ส่วนโครงการ/กิจกรรมที่จะต้องดำเนินการต่อเนื่องให้แล้วเสร็จ รวมถึงโครงการใหม่ที่จะทำในปี 2566 จำนวน 171 โครงการ เป็นโครงการใหม่ปี 2566 จำนวน 58 โครงการ
สำหรับแหล่งเงินในการพัฒนา 171 โครงการ วงเงินลงทุนทั้งในและนอกงบประมาณภาคคมนาคมทั้งโครงการตั้งแต่ปี 2558 – 2570 จำนวน 2,718,959 ล้านบาท ส่วนวงเงินลงทุนทั้งในและนอกงบประมาณภาคคมนาคมเฉพาะของปี 2566 จำนวน 124,839 ล้านบาท ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นการสรุปผลการดำเนินงานของกระทรวงคมนาคมในรอบปี 2565 และโครงการที่กระทรวงคมนาคมจะดำเนินการในปี 2566 และ ปี 2567 เพื่อให้การปฏิบัติงานของกระทรวงคมนาคมเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์แก่พี่น้องประชาชนอย่างสูงสุด
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้มีข้อสั่งการให้
1) การดำเนินการในทุกขั้นตอนขอให้ยึดหลักกฎหมาย ระเบียบ มติคณะรัฐมนตรี และหลักธรรมาภิบาลอย่างเคร่งครัด
2) ขอให้นำความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียมาประมวลผล และนำไปใช้ปรับปรุงเพื่อขับเคลื่อนโครงการให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
3) ให้เผยแพร่ประชาสัมพันธ์การดำเนินงานของกระทรวงคมนาคม และหน่วยงานในสังกัดอย่างต่อเนื่อง ครบทุกมิติ เพื่อสร้างการรับรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องและสร้างการมีส่วนร่วมกับประชาชน
4) การดำเนินโครงการต่าง ๆ ขอให้คำนึงถึงผลกระทบทางด้านสิ่งแวดล้อมที่จะเกิดขึ้น รวมทั้งผลกระทบที่จะเกิดกับพี่น้องประชาชน โดยต้องดำเนินการเชิงรุก ตั้งแต่ก่อนดำเนินโครงการเพื่อบรรเทาผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
5) ให้ทุกหน่วยงานบูรณาการทำงานร่วมกันในทุกมิติ เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในการดำเนินงาน
6) ขอให้นำเทคโนโลยีดิจิทัล และการศึกษาดูงานต่าง ๆ มาปรับใช้ในการดำเนินโครงการต่าง ๆ เพื่อความคุ้มค่า และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน
7) พิจารณาการนำอัตลักษณ์ความเป็นไทยใส่ไว้ในการออกแบบ
8) ขอให้พิจารณาแนวทางการเพิ่มเรื่องความคุ้มครองอุบัติเหตุในสัญญาก่อสร้าง