POLITICS

นายกฯ ย้ำ เรื่องปรับ ครม. ให้ถามที่ตนเองคนเดียว แต่ยังไม่ส่งสัญญาณ ระบุ ปรับเล็กหรือปรับใหญ่ ถึงเวลาเดี๋ยวรู้เอง

วันนี้ (8 เม.ย. 67) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ถึงความชัดเจนในการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) หลังมีกระแสข่าวอย่างต่อเนื่อง ว่า เรื่องการปรับคณะรัฐมนตรี สามารถถามตนเองโดยตรงได้เลย ส่วนเรื่องโควต้าพรรคเพื่อไทยที่ยังเหลืออีกตำแหน่งนั้น นายกฯ ระบุว่า เดี๋ยวค่อยไปว่ากันเมื่อถึงเวลา

ส่วนโควตาพรรคพลังประชารัฐ ได้ส่งชื่ออีกหนึ่งที่เหลืออยู่มาหรือยัง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยังเลย และยังไม่ได้เจอ ยังไม่ได้พูดคุย แต่ถ้าบอกมาก็จะรับทราบ พร้อมย้ำว่า เป็นโควตาของพรรคพลังประชารัฐ หากจะเสนอใครก็เสนอเข้ามา และผ่านไปที่คณะกรรมการตรวจสอบ

เมื่อถามว่าหากจะส่งสัญญาณไปยังพรรคร่วมรัฐบาล อยากจะส่งสัญญาณอะไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สัญญาณที่ได้ส่งมาโดยตลอด และให้ความสำคัญมาโดยตลอด คือปัญหาพี่น้องประชาชนในทุกปัญหา ฉะนั้น พวกท่านทราบกันดีอยู่แล้ว ท่านมีวุฒิภาวะที่สูงกันทุกคนแล้ว ก็ทราบว่าความต้องการของพี่น้องประชาชนในปัจจุบันคืออะไร และการที่ตนเองลงพื้นที่ในครั้งนี้ก็จะไปดูเรื่องยางพารา

ส่วนที่มีการมองกันว่าหากปรับใหญ่แรงกระเพื่อมจะสูง อาจจะปรับเฉพาะตำแหน่งที่ว่าง และจำเป็นจริงๆ นากรัฐมนตรี กล่าวว่า เหมือนกับคำพูดที่ว่าคนรวย คนจน ตรงไหนคือคนรวย ตรงไหนคือคนจนใช่หรือไม่ ฉะนั้น ถ้าบอกปรับเล็กแล้วปรับเล็กคืออะไร คือ 3 ตำแหน่ง หรือ 6 ตำแหน่ง และ 6 ตำแหน่งก็อาจจะมองว่าก็ยังเล็กอยู่ ดังนั้น อย่าไปพูดว่าเล็กหรือใหญ่เลยดีกว่า ไว้ถึงเวลาเหมาะสมเกิดขึ้นแน่นอน

สำหรับการตัดสินใจปรับ ครม. จะใช้อำนาจคนเดียว หรือปรึกษาใครในพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายกรัฐบาล กล่าวว่า การทำงานตั้งแต่ตนเองเป็นนักธุรกิจมา จนกระทั่งก้าวสู่เวทีการเมือง ตนเองให้เกียรติเพื่อนร่วมงานทุกคน ดังนั้น การจะทำอะไรต้องมีการพูดคุยซึ่งเป็นเรื่องธรรมดา แต่แน่นอนว่าตนเองเป็นคนจรดปากกา

ส่วนที่มีการมองกันว่านายกรัฐมนตรี เป็นคนทำงานที่เด็ดขาด อย่าเอาอะไรมาขู่ เพราะอาจจะถูกปาดคอได้ นายเศรษฐา หัวเราะ พร้อมกับกล่าวว่า ตนเองว่ารัฐมนตรีจากทุกพรรคการเมืองที่ร่วมอยู่ รู้อยู่แล้วว่าการทำงานร่วมกันมันไม่มีการขู่ เรามีการพูดคุยกันดี ๆ อยู่แล้ว เพราะตนเองเป็นคนที่เข้าถึงได้อยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นทาง WhatsApp โทรศัพท์ หรือในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี มีอะไรก็พูดกันตรง ๆ ตนเองไม่ได้มีอะไรเลย และก็ต่อสายตรงถึงนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เมื่อวานนี้ก็เรื่องอื่น และก็ต่อสายตรงกันตลอด ท่านเองก็ไม่เคยขู่ตนเองและตนเองก็ไม่เคยขู่ท่าน มองว่าเป็นวิธีเดิม ๆ โบราณ ๆ จะเอาอะไรก็พูดกันตรงตรงดีกว่า และก็มีการปรับปรุงแก้ไขกันไประหว่างทางอย่างนี้ เชื่อว่าผลประโยชน์สูงสุดก็จะจะตกอยู่ที่พี่น้องประชาชน และที่มาวันนี้ ทุก ๆ พรรคก็มา ซึ่งพรรคเพื่อไทยไม่ได้มี สส. ที่นี่ มันก็เป็นปมทางใจของตนเองนิดหน่อย แต่ก็ไม่ได้มีอะไร และยังพูดคุยกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และนายชัยชนะ เดชเดโช สส. จังหวัดนครศรีธรรมราช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ก็พูดคุยกันดี และยังได้เจอคุณแม่ท่าน และ สส.พรรคภูมิใจไทย ก็มาด้วยกัน 2 คน และ สส.พรรคพลังประชารัฐ ก็มาจากตรัง ซึ่งไม่ได้แยกพรรคแยกสีอะไรเลย

นายกฯ ย้ำว่า วันนี้เมื่อเป็นรัฐบาลแล้ว ทุกท่านทราบดีอยู่ปัญหาของพี่น้องประชาชนเยอะเหลือเกิน งบประมาณก็เพิ่งผ่านมา 2 อาทิตย์ ซึ่งเราก็ต้องมานั่งพูดคุยกัน ขณะที่ สส.ตรัง ก็ได้นำโครงการมาเสนอ และตนเองได้ยื่นให้กับ นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เพื่อให้ไปพิจารณาดูต่อ ซึ่งตรงนี้เป็นเรื่องที่เราให้ความสำคัญสูงสุดอยู่แล้ว

Related Posts

Send this to a friend