‘สรวงศ์’ มั่นใจรัฐบาลเสียงแน่นปึ้ก พร้อมโหวตร่างงบปี 67

‘สรวงศ์’ มั่นใจรัฐบาลเสียงแน่นปึ้ก พร้อมโหวตร่างงบปี 67 คาดได้ใช้ไม่เกินต้นพฤษภานี้ เชื่อ สส.มีวุฒิภาวะมากพอ ไม่ตบทรัพย์ชั้น กมธ.

วันนี้ (5 ม.ค. 67) นายสรวงศ์ เทียนทอง สส.สระแก้ว พรรคเพื่อไทย ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงภาพรวมการอภิปรายร่างงบประมาณรายจ่าย ประจำปี 2567 ว่าทำหน้าที่ได้ดีทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล ซึ่งได้เอาข้อมูลของแต่ละฝ่ายมาพูดคุยกัน ตามที่นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พูดว่าตัวเลขของฝ่ายค้านยังไม่ใช่ข้อเท็จจริง ต้องกลับไปดูความถูกต้อง ย้ำว่า 315 เสียงของรัฐบาลไม่น่ามีปัญหา เสียงไม่แตก และวาระนี้เป็นวาระแรกน่าจะให้ความร่วมมือซึ่งกันและกัน เพราะงบประมาณนี้เป็นผลประโยชน์กับพี่น้องประชาชน

ส่วนการลงมติรับร่าง พ.ร.บ.งบประมาณประจำปี 2567 จะสะท้อนเสถียรภาพของรัฐบาลหรือไม่นั้น นายสรวงศ์ มองว่าเราผนึกกันแน่น ดูได้จากการอภิปรายของแต่ละท่านงวดนี้ไม่มีการปกป้อง หรือพูดถึงแต่กระทรวงที่พรรคตนเองดูแล แต่เป็นการอภิปรายในภาพรวม แตะทุกกระทรวง

ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีไม่ได้กำชับอะไร บอกให้ สส.รับฟัง ให้ทีมงานจดประเด็นในสิ่งที่ฝ่ายค้านเสนอแนะ พร้อมปรับแก้ในชั้นกรรมาธิการ ขณะที่สัดส่วนกรรมาธิการ ทั้งหมด 72 คน แบ่งเป็น คณะรัฐมนตรี 18 คน สส. 54 แบ่งเป็น พรรคเพื่อไทย 15 คน พรรคภูมิใจไทย 8 คน และแต่ละพรรคลดหย่อนกันไป โดยจะนัดประชุมแรกช่วงเช้าวันที่ 8 ม.ค.นี้ ช่วงเช้าเพื่อแต่งตั้งตำแหน่งในกรรมาธิการ และช่วงบ่ายจะประชุมนัดแรก โดยกรอบการพิจารณาจะอยู่ในช่วง 3 เดือน และเข้าวาระ 2-3 ประมาณวันที่ 3-4 เม.ย.67 ก่อนจะส่งให้วุฒิสภาพิจารณา และส่งกลับมายัง ครม. เพื่อทูลเกล้าฯ ประมาณวันที่ 17 เม.ย.67 คาดจะได้ใช้งบประมาณปี 2567 ช่วงปลาย เม.ย. หรือต้น พ.ค.

ส่วนเรื่องการตบทรัพย์ในชั้นกรรมาธิการ เป็นเรื่องของบุคคล ตามที่นายกรัฐมนตรีระบุว่าในการทำงานของรัฐบาลชุดนี้ไม่มีแน่นอน เคยมีกรณีที่เป็นบทเรียนแล้ว มั่นใจว่า สส.แต่ละท่านมีวุฒิภาวะพอในการปฏิบัติตัวอยู่ในกรอบ

เมื่อถามถึงการอภิปรายของพรรคร่วมฝ่ายค้าน นายสรวงศ์ ระบุว่าอย่าให้คะแนนเลย ถือว่าทำการบ้านได้ดี อย่างที่ทราบเราได้เอกสารมากระชั้นชิด มีเวลาตรวจสอบในช่วงปีใหม่ 9 วัน งบประมาณค่อนข้างล่าช้า เป็นเหตุให้เรายืนยันว่าจะอภิปรายในวันที่ 3-5 ม.ค.67 โดยนโยบายของเพื่อไทยเกือบทั้งหมดก็อยู่จัดสรรงบประมาณ

สำหรับความชัดเจนของโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ขอให้ทางรัฐมนตรีตอบในรายละเอียดของดิจิทัลวอลเล็ต เพราะพวกเราเป็นฝ่ายนิติบัญญัติ มีหน้าที่ตรวจสอบ ถ้ารัฐบาลฝ่ายเราเองทำไม่ถูกต้อง เรามีสิทธิทักท้วง ผลกระทบต่อนายกรัฐมนตรีเป็นสิ่งที่คนนอกมองเข้ามา พอเข้ามาอยู่ในตำแหน่ง อาจจะไม่เกิดขึ้นตามที่คนนอกมอง หากฝ่ายรัฐบาลเสนอ พ.ร.บ.กู้เงินมา ฝ่าย สส.ก็มีสิทธิตรวจสอบ โดยยืนยันว่าประชาชนจะได้ใช้ดิจิทัลวอลเล็ต เพราะเราพูดกับพี่น้องประชาชนไว้ สำคัญสุดพวกเราเป็น สส.เขต ทราบดีว่าความเป็นอยู่ของประชาชนเป็นอย่างไร ถ้าเราไม่กระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ แย่แน่นอน และการกู้เงินในโครงการนี้เป็นไปตามคำแนะนำของธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นเงินสนับสนุน ไม่ใช่กู้มาแจก