‘ชูศักดิ์’ เผย ตั้งอนุ กมธ.แยกประเภทคดีการเมือง ศึกษาว่าควรนิรโทษกรรมกลุ่มใด

‘ชูศักดิ์’ เผย ตั้งอนุ กมธ.แยกประเภทคดีการเมือง ศึกษาว่าควรนิรโทษกรรมกลุ่มใด ‘นิกร’ นั่งประธานฯ ยัน สมาชิกตั้งใจดันร่างให้สำเร็จ หวังสร้างความปรองดองในสังคม

วันนี้ (29 ก.พ. 67) นายชูศักดิ์ ศิรินิล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตราพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) นิรโทษกรรม ว่า การประชุมกรรมาธิการฯ วันนี้ได้รายละเอียดครบ ที่ปรึกษาของกรรมาธิการฯ ได้ให้ความเห็นต่างๆ ก็พอสรุปได้ว่าเห็นควรให้มีการนิรโทษกรรม เพียงแต่ต้องพิจารณาว่าการกระทำความผิดอะไรถึงควรได้รับการนิรโทษกรรม ยังไม่สามารถลงมติได้ เพราะต้องเอาข้อมูลทั้งหลายมาศึกษาก่อน โดยเฉพาะคดีที่เกี่ยวข้องกับการเมืองขณะนี้มีอะไรบ้าง เช่น การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตร กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ต้องนำรายละเอียดของคดีมาพิจารณา

นายชูศักดิ์ กล่าวต่ออีกด้วยว่า ในวันที่ 7 มี.ค. 67 ก็จะมาดูประเภทของคดีทั้งหลายที่มีข้อมูลอยู่ ทั้งจากสำนักงานอัยการสูงสุด ศูนย์ทนายความ เพื่อดูรายละเอียดและพิจารณา

เมื่อถามว่าการเดินหน้าของคณะกรรมาธิการฯ ชุดนี้ เป็นไปตามเป้าหมายหรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า วันนี้ได้มีการตั้งคณะอนุกรรมาธิการฯ ขึ้นมา โดยมี นายนิกร จำนง ผู้อำนวยการพรรคชาติไทยพัฒนา เป็นประธานคณะอนุกรรมการชุดนี้ โดยมีหน้าที่ศึกษาและแยกแยะหมวดหมู่ของคดีทางการเมืองที่มีอยู่ อาทิ กลุ่มความผิดตามพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ฉุกเฉิน กลุ่มความผิดมาตรา 116 รวมถึงคดีที่มีการตัดสินไปแล้ว เพื่อให้คณะกรรมาธิการฯ ชุดใหญ่ พิจารณาว่าเห็นควรให้มีการนิรโทษกรรมหรือไม่

เมื่อถามว่ากรรมาธิการฯ จะได้ข้อสรุปภายในกรอบเวลา 60 วันหรือไม่ เพราะมีการมองว่าเป็นการทอดเวลาการร่างกฎหมายนิรโทษกรรมออกไป นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ดูความตั้งใจของคณะกรรมาธิการฯ ทุกคนก็อยากให้เสร็จ เพียงแต่ต้องการความรอบคอบ ดูแล้วทุกคนมีความตั้งใจให้เป็นกระบวนการสร้างความปรองดอง ให้ประเทศกลับสู่สภาวะปกติสามารถอยู่ร่วมกันได้โดยสันติ ส่วนจะใช้เวลาขนาดไหน ตอนนี้ยังไม่สามารถพูดได้ ต้องขึ้นอยู่กับข้อมูลและการศึกษา